ประกันชั้น 2+ รถไฟฟ้า
เซฟเงินหมื่น...แต่ยังคุ้มครอง
ทางเลือกสุดคุ้มสำหรับคนขับรถแข็ง คุ้มครองรถชนรถ ไฟไหม้ รถหาย และแบตเตอรี่ ในราคาที่ถูกกว่าชั้น 1 เกือบครึ่ง!
ชั้น 2+ เหมาะกับใคร?
ขับรถแข็งแล้ว
มั่นใจว่าไม่ขับไปชนเสาหรือขูดฟุตบาทเอง เน้นป้องกันอุบัติเหตุใหญ่ๆ บนท้องถนน
กลัวรถหาย/ไฟไหม้
กังวลเรื่องระบบไฟฟ้าลัดวงจร หรือจอดรถในที่เสี่ยง ชั้น 2+ คุ้มครองเต็มทุนประกัน
อยากประหยัดงบ
ต้องการลดค่าใช้จ่ายรายปี เบี้ยเริ่มต้นหลักพัน แต่ได้ความอุ่นใจเกือบเท่าชั้น 1
วัดกันชัดๆ: ชั้น 2+ vs ชั้น 1
| ความคุ้มครอง | ชั้น 2+ (ประหยัด) | ชั้น 1 (จัดเต็ม) |
|---|---|---|
| ซ่อมรถเรา (กรณีชนรถ) | คุ้มครอง | คุ้มครอง |
| ซ่อมรถเรา (กรณีชนเสา/ไม่มีคู่กรณี) | ไม่คุ้มครอง (ต้องจ่ายเอง) | คุ้มครอง |
| รถหาย / ไฟไหม้ | คุ้มครอง | คุ้มครอง |
| แบตเตอรี่ EV | คุ้มครอง (เฉพาะอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี) | คุ้มครอง 100% (ทุกกรณี) |
| ราคาเบี้ยเริ่มต้น | 9,xxx บ. | 1x,xxx บ. |
ประกันรถไฟฟ้าชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง? (ฉบับเข้าใจง่าย)
ประกันชั้น 2+ (2 พลัส) คือประกันภัยที่ออกแบบมาเพื่อปิดจุดอ่อนของประกันชั้น 3 (ที่ซ่อมแต่เขา ไม่ซ่อมเรา) โดยเพิ่มความคุ้มครอง "ซ่อมรถเรา" เข้ามา ในกรณีที่เกิดเหตุ รถชนรถ และมีคู่กรณีเท่านั้น
สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ประกันชั้น 2+ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับรถที่มีอายุ 2-3 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ย แต่ยังกังวลเรื่อง แบตเตอรี่เสียหายจากการชนหนัก หรือ ไฟไหม้ขณะชาร์จซึ่งชั้น 2+ ยังคงให้ความคุ้มครองในส่วนนี้เต็มวงเงินทุนประกันครับ
คำถามพบบ่อย (FAQ)
ประกันชั้น 2+ รถไฟฟ้า คุ้มครองแบตเตอรี่ไหม?▼
คุ้มครองครับ! แต่จะคุ้มครองเฉพาะกรณี "รถชนรถ" (มีคู่กรณี) หรือ "ไฟไหม้/รถหาย" เท่านั้น โดยจ่ายสินไหมตามทุนประกันที่ทำไว้ครับ
ต่างจากชั้น 1 ตรงไหน?▼
ต่างหลักๆ คือ ชั้น 2+ "ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี" (เช่น ถอยชนเสา ครูดฟุตบาท) คุณต้องซ่อมเองครับ แต่ถ้าชนกับรถคันอื่น เคลมได้ปกติครับ
เบี้ยประกันชั้น 2+ ราคาเท่าไหร่?▼
เริ่มต้นเพียง 9,xxx - 1x,xxx บาทต่อปี (ถูกกว่าชั้น 1 เกือบ 50%) เหมาะกับคนที่ขับรถแข็งแล้ว และอยากประหยัดงบครับ